เคอร์ติส โจนส์ มีชื่อเต็มว่า เคอร์ติส จูเลียน โจนส์ กองกลางดาวรุ่งของทีมลิเวอร์พูล ที่แฟนบอลยกให้เป็น นิวเจอร์ราร์ดคนต่อไป  เขาเกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2001 ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ด้วยความที่เขาเกิดในประเทศที่มีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ  ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความหลงใหล คลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลไปด้วย โดยเขาเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลจากการเล่นกับเพื่อนๆ ตามท้องถนน

ในปี 2010 เมื่อเขามีอายุ 9 ขวบ เข้าได้เริ่มฝึกฝนการเป็นนักฟุตบอลอย่างแท้จริง ด้วยการเข้าร่วมในอคาเดมี่ของสโมสรลิเวอร์พูล และด้วยพรสวรรค์ และความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมทำให้เขามีฝีเท้าที่เหนือกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกันเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลาในการฝึกฝน และพัฒนาฝีเท้าของเขาอยู่ประมาณ 6 ปี เมื่อเขามีอายุ 15 ปี ในปี 2016 เคอร์ติส โจนส์ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักในทีมเยาวชนชุดอายุไม่เกิน 18 ปีของสโมสรลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

และในการขึ้นมาเล่นในทีมเยาวชนชุดนี้นี่เอง ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นักเตะขวัญใจของเขา ซึ่งในตอนนั้นเป็นผู้จัดทีมให้กับทีมเยาวชนของลิเวอร์พูลอยู่ เคอร์ติส โจนส์ ได้รับการฝึกฝนให้เป็นกองกลางที่ต้องทำหน้าที่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงไปช่วยในเกมรับ,หาช่องจ่ายบอลให้ในแนวรุก,คอยสกัดบอลของคู่แข่ง และต้องมีความเหนียวแน่นไม่เสียบอลง่ายๆ และด้วยพรสวรรค์และความตั้งใจของเขา ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ ขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักในกับทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีได้อย่างไม่ยากนัก ในปี 2019 เคอร์ติส โจนส์ ก็ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูล โดยการขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ของเขาในช่วงแรกนั้น ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีโอกาสลงสนามมากนัก

โดยเกมในนัดแรกที่เขามีโอกาสลงสนามคือในเกมที่พบกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ในศึกเอฟเอคัพ รอบที่สาม เมื่อเดือนมกราคม 2019 และในเดือนกันยายน ในปีเดียวกัน เขาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เป็นนัดที่สอง พบกับ มิลตันคีนส์ดอนส์ ในศึกคาราบาวคัพ โดยในเกมนัดที่เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอีกด้วย

และในเกมที่สร้างผลงานให้กับเขาเป็นอย่างมากก็คงจะเป็นเกมที่เขานำทีมที่มีนักเตะเยาวชนและตัวสำรอง เสมอ อาร์เซนอลชุดใหญ่มาได้ 5-5 และสามารถเอาชนะจุดโทษได้สำเร็จ

ในเดือนธันวาคม 2019 เคอร์ติส โจนส์ มีโอกาสลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นนัดแรก ในเกมที่พบกับ บอร์นมัท โดยลงเล่นเป็นตัวสำรอง

ในฤดูกาล 2019-2020 เขาสามารถทำประตูชัยให้กับลิเวอร์พูลได้ในเกมที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในศึกเอฟเอคัพ และยังเป็นประตูแรกที่เขาทำให้กับลิเวอร์พูลอีกด้วย นอกจากนี้เขายังกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ในวัย 18 ปี 340 วัน

นอกจากนี้ในเดือน กุมภาพันธ์ 2020ในเกมที่พบกับ ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ ที่ลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะมาได้ 1-0 ทำให้ เขากลายเป็นกัปตันทีมของลิเวอร์พูลที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย ในวัย 19 ปี 5 วัน

ในเดือนกรกฎาคม 2020 เคอร์ติส โจนส์ ตัดสินใจต่อสัญญากับลิเวอร์พูลไปจนถึงปี 2025 ต่อมา เขาสามารถทำประตูแรกในเกมพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-2020 ในเกมที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 และจบฤดูกาล 2019-2020 เขาช่วยให้ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 30 ปีของลิเวอร์พูลอีกด้วย

ในฤดูกาล 2020-2021 ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักของทีม ทำให้เขาขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักให้กับทีมชุดใหญ่ ด้วยรูปแบบการเล่นที่สามารถเชื่อมเกมในแนวรุกและแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับความขยันและความแข็งแกร่งของเขา และเคอร์ติส โจนส์ ยังมีทักษะการอ่านเกมที่แม่นยำ คอยคุมเกมในแดนกลางให้กับทีมได้อย่างเหนียวแน่น และด้วยสไตล์การเล่นของเขาทำให้ เคอร์ติส โจนส์ ถูกบรรดาแฟนบอลขนานนามว่า นิวเจอร์ราร์ด ซึ่งหมายถึง เขาจะเข้ามาเป็นตัวแทนของ สตีเว่น เจอร์ราร์ดตำนานของลิเวอร์พูลในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน โดยในตอนนี้ เขาก็พยายามที่จะพัฒนาฝีเท้าและทักษะของตัวเองให้สามารถเทียบเท่านักเตะในดวงใจของเขา และสามารถรับใช้ทีมในดวงใจของเขาได้ตลอดการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาเช่นกัน

สำหรับผลงานในทีมชาติอังกฤษ เขาเริ่มถูกเรียกเข้าร่วมในทีมชาติอังกฤษในปี 2016 โดยเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และก็ไต่ระดับขึ้นไปเล่นในชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ,18 ปี,19 ปี และ 21 ปีตามลำดับ โดยในตอนนี้ เคอร์ติส โจนส์ กำลังพยายามสร้างผลงานเพื่อให้ตัวเองได้มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของทีมชาติอังกฤษในเร็ววันนี้ และด้วยฟอร์มการเล่นของเขาในตอนนั้น เชื่อว่าอีกไม่นาน เขาจะกลายเป็นนักเตะที่มีชื่ออยู่ในทีมชาติชุดใหญ่ของอังกฤษอย่างแน่นอน