โรนัลดินโญ่ เขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล เขาเป็นนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ลงสนามเพื่อเตะฟุตบอล เขาเป็นกองกลางที่มากด้วยพรสวรรค์ เขาเป็นนักเตะที่ทุกคนต้องรู้จัก

โรนัลดินโญ่  มีชื่อเต็มว่า รอนัลดู จี อาซิส โมเรย์รา โดยคำว่า โรนัลดินโญ่ ในภาษาโปรตุเกสแปลว่า โรนัลโด้น้อย และเหตุผลของการใช้ชื่อนี้ของเขาก็มาจากการที่ เขาอยากเป็นนักฟุตบอลระดับโลกเหมือนกับ โรนัลโด้ นั่นเอง เขาเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1980 ที่เมืองโปร์ตูอาเลกรี ประเทศบราซิล เขาเกิดมาในครอบครัวของชนชั้นกลาง มีพ่อเป็นพนักงานในอู่ซ่อมเรือและนักฟุตบอล แม่ของเขามีอาชีพนางพยาบาล

โดยความสามารถในการเล่นฟุตบอลของโรนัลดินโญ่นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในตอนที่เขายังเด็ก ตั้งแต่ในตอนที่เขามีอายุเพียง 8 ขวบ ซึ่งในตอนแรกเขามีความชื่นชอบในการเล่นฟุตซอลเป็นพิเศษ โดยเขาจะออกมาเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ตามข้างถนนและเล่นตามพื้นทรายของชายหาดในหมู่บ้านของเขา

เมื่อเขาอายุได้ 13 ปี  เขาเริ่มหันมาเล่นฟุตบอล 11 คน โดยเข้าไปร่วมทีมเยาวชนของสโมสรเกรมีอู และชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักผ่านสื่อเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างผลงานการยิงประตูในเกมฟุตบอลระดับเยาวชนภายในประเทศบราซิลได้อย่างถล่มทลาย โดยการทำประตูคนเดียวไป 23 ประตูในเกมเดียว ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 23-0 ทำให้ โรนัลดินโญ่ ได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมอายุต่ำกว่า 17 ปี ชิงแชมป์โลกไปครอง

โรนัลดินโญ่ เล่นในทีมเยาวชนของเกรมีอู ในปี 1987-1998 ก่อนที่จะขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปี 1998-2001 ซึ่งความสามารถของเขาก็ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็ตกตะลึง เขามีทักษะการเล่นฟุตบอลและความสามารถในการยิงประตูที่เหนือชั้น ทำให้ในปี 1999 โรนัลดินโญ่ ถูกเรียกให้ติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ด้วยอายุเพียง 19 ปี เท่านั้น และมาจนถึงในตอนนี้ การแข่งขันฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดของเขาจะเล็กไปสำหรับเขาเสียแล้ว ประกอบกับในเวลานั้น โรนัลดินโญ่ เป็นที่สนใจของทีมดังในยุโรปมากมาย

ในที่สุด ปี 2001 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส ก็ได้ยื่นข้อเสนอคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุ 21 ปี เขาตกลงเซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปี โดยทาง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับ เกรมีอู เป็นเงินจำนวน 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่ต่างจากบ้านเกิดของเขา ทำให้การค้าแข้งของเขาในครั้งนี้ต้องประสบปัญหาเนื่องจาก โรนัลดินโญ่ ไม่สามารถปรับตัวได้ ซึ่งในช่วงนั้นมีข่าวออกมาอยู่บ่อยๆ ว่า โค้ชของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่พอใจในฟอร์มการเล่นของเขา และยังมองว่าที่โรนัลดินโญ่ทำผลงานได้ไม่ดีเนื่องจากสนใจในเรื่องเที่ยวสนุกในยามค่ำคืนมากกว่า และมันส่งผลทำให้เขาขาดระเบียบวินัยไปด้วย ทำให้การเล่นของเขาไม่มีความคงเส้นคงวา หากเขาเล่นกับทีมใหญ่ฟอร์มการเล่นของเขาจะยอดเยี่ยมเอามากๆ แต่หากเล่นกับทีมเล็กแล้วเขาทำได้ไม่ดีเลย เรียก่าหายไปจากเกมนั้นเลยก็ว่าได้

ในปี 2002 โรนัลดินโญ่ เดินทางไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกกับทีมชาติบราซิล ที่ประเทศเกาหลีใต้ และช่วยทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ และหลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นนักเตะที่ทีมใหญ่ๆ ต่างต้องการไปร่วมทีม

มาถึงในปี 2003 โรนัลดินโญ่ ก็ได้ย้ายไปร่วมทีมกับ บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดของสโมสรในตอนนั้น การค้าแข้งกับ บาร์เซโลนา ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของชีวิตการค้าแข้งของเขาเลยทีเดียว เขาพาทีมคว้า แชมป์ลาลีกา สเปน ถึง 2 สมัย ในปี 2005 และ 2006  คว้าแชมป์ยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2006  และยังมีรางวัลส่วนตัว ซึ่งก็คือรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2005

จนกระทั่งในปี 2008 เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปนเข้ามาคุมทีมบาร์เซโลนา และได้มีการประกาศออกมาว่า โรนัลดินโญ่รวมถึงนักเตะดังหลายคนจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเขา โรนัลดินโญ่ จึงตัดสินใจลาจากบาร์เซโลนา ในปีนั้น โรนัลดินโญ่ ลงสนามให้กับบาร์เซโลนาไปทั้งหมด 145 นัด ทำไปถึง 70 ประตู

ในปี 2008 เขาย้ายไปยัง เอซี มิลาน ในประเทศอิตาลี แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมได้ ด้วยอายุของเขาที่มากขึ้น และด้วยนิสัยส่วนตังของเขาที่ชอบกินดื่ม  โรนัลดินโญ่ จึงตัดสินใจเดินทางอีกครั้ง ด้วยการย้ายไปร่วมทีมฟลาเมงโก ทีมฟุตบอลในบ้านเกิดของเขา ในปี 2011

ในปี 2012 เข้าย้ายไปร่วมทีม อัตเลชีกูมีเนย์รู จนถึงปี 2014 เขาย้ายทีมอีกครั้ง โดยย้ายไปยัง เกเรตาโร ทีมฟุตบอลในเม็กซิโก และก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ ฟลูมิเนนเซ่ เป็นทีมสุดท้าย ก่อนที่จะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2018 ในวัย 37 ปี

โรนัลดินโญ่ ถือว่าเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะของโลกเลยก็ว่าได้ เขามีความโดดเด่นในเรื่องของเทคนิคและทักษะเฉพาะตัว และด้วยเอกลักษณ์ส่วนตัวของเขาคือ รอยยิ้มที่สร้างความสุขให้แก่แฟนบอลได้ทุกครั้งที่เขาลงสนาม จนทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ทุกคนจดจำจนถึงวันนี้